PlayListนี้ เริ่มต้นด้วย "เล่าเรื่อง ตาดูดาวเท้าติดดิน" เรียงลำดับตั้งแต่ ตอนแรก ถึง ตอนปัจจุบัน ..ท้ายเพลย์ลิสท์เป็นคลิป "เมื่อศาลรัฐธรรมนูญกระทำขัดรัฐธรรมนูญ : จะทำอย่างไร?" วันพุธที่ 1 พฤษภาคม 2556 เวลา 13.00 - 16.00 น. ห้องกมลทิพย์ ชั้น 2 โรงแรมสุโกศล (สยามซิตี้เดิม) คลิปนี้..วิทยากร รศ.ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความคิดเห็นเริ่มนาที 0:14:24
คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...
หรือคลิกที่นี่.. @ AsiaUpdate "เล่าเรื่อง ตาดูดาวเท้าติดดิน"

คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2554

55> นปช. แถลงข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ

ข่าวความเคลื่อนไหวอื่นๆ เชิญที่เว็บนี้ครับ....
และ เชิญที่เว็บนี้ด้วยครับ....
การจัดฉาก สร้างภาพ ตามท้องถนน ควรจะหยุดได้แล้ว...คลิกที่นี่...
คลิกที่นี่...หมดปัญญา จะเอาชนะผู้หญิง ถึงกับเล่นบท"เรยา"กันแล้วหรือครับ




3กรกฎา กาเบอร์๑ ส.ส.เพื่อไทย

และ กาเบอร์๑ พรรคเพื่อไทย

ใ ห้ จั ด ตั้ ง รั ฐ บ า ล พ ร ร ค เ ดี ย ว


Printให้คุณปู่คุณตาคุณย่าคุณยายที่บ้านดูนะครับ ท่านจะได้กาเบอร์ 1 เพื่อไทยได้ตรงช่อง


ฮิวแมนไรท์วอท์ช สรุป ทหารฆ่าแดง...
คลิกที่นี่...รายงาน "Descent into Chaos: Thailand’s 2010 Red Shirts Protest and the Government Crackdown" ฉบับเต็มของฮิวแมนไรท์วอท์ช

คลิกที่นี่...เพื่อไทยปราศรัย เวทีจ.สุรินทร์และเวทีจ.อุบลฯ 05-05-54 และที่นี่...
คลิกที่นี่ จตุพร ณัฐวุฒิ และท่านอื่นๆ เวทีร้อยเอ็ด 02-05-2554
คลิกที่นี่ ดูต่อเนื่อง...จตุพร ณัฐวุฒิ และท่านอื่นๆ เวทีเชียงใหม่&เวทีขอนแก่น 30-04-2554
คลิกที่นี่...คลิป จตุพร ณัฐวุฒิ และท่านอื่นๆ เวทีโคราช งานคุณแรมโบ้
27-04-2554 หรือคลิกที่นี่...

นปช. แถลงข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ
http://www.prachatai.com/journal/2011/04/34249



วันอังคารที่ 26 เมษายน 2554 เวลา 20.00 น. แกนนำ นปช. ประกอบด้วย ธิดา ถาวรเศรษฐ์ ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ และจตุพร พรหมพันธุ์ ร่วมแถลงข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย ตึกมณียา ซึ่งมีผู้สื่อข่าว นักวิชาการ ตัวแทนสถานทูตและผู้สนใจชาวต่างประเทศเข้าร่วมรับฟังประมาณ 100 คน ระบุมีความพยายามทำรัฐประหารอีกครั้ง พร้อมใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเป็นเครื่องมือ ระบุประชาชนจะเป็นกำลังสำคัญในการต่อต้านการรัฐประหารครั้งใหม่

ธิดา ถาวรเศรษฐ์ กล่าวขอบคุณสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศที่ให้โอกาสมาพูดคุย พร้อมกล่าวต่อไปว่า แม้ว่าประเทศไทยกำลังอยู่ในภาวะปกติ และก้าวไปสู่การเลือกตั้ง ครบรอบ 1 ปีของการสลายการชุมนุมอย่างรุนแรง มีผู้บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก มีผู้ถูกจับกุมคุมขังกว่าร้อยคน ยังไม่มีการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม รวมถึงกระบวนการสืบสวนสอบสวนการบาดเจ็บเสียชีวิตของประชาชนที่ไม่มีการดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา รวมถึงช่างภาพ ผู้สื่อข่าว พยาบาล และผู้ที่ตายในวัดปทุมวนาราม ทำให้ นปช.แดงทั้งแผ่นดินต้องทวงถามความยุติธรรม และจัดชุมนุมทุกเดือนในวันที่ 10 และ 19 และมีผู้เข้าร่วมชุมนุมมากขึ้นเป็นลำดับ

ที่สำคัญคือประชาชนไทยและคนเสื้อแดงมองเห็นความไม่เสมอภาคทางการเมืองและการใช้กฎหมายที่ไม่เท่าเทียมกัน ระหว่างประชาชนต่างสีเสื้อ ระหว่างพรรคการเมืองที่สนับสนุนอำมาตยาธิปไตย กับพรรคที่สนับสนุนประชาชน

ความป่าเถื่อนเช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในยุคนี้ที่โลกมีความเจริญก้าวหน้า มีความเจริญทางวิทยาศาสตร์ นี่ไม่ใช่ปัญหาความขัดแย้งระหว่างแกนนำในระบอบอำมาตยาธิปไตยกับทักษิณ และเป็นความขัดแย้งระหว่างเครือข่ายของคนที่ผลประโยชน์กับระบอบอำมาตย์ กับกลุ่มประชาธิปไตย

และแม้จะมีการประกาศยุบสภา เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง แต่ก็มีความพยายามที่จะก่อการรัฐประหารครั้งใหม่ โดยที่ภาระและผลผลิตของการรัฐประหารชุดเก่ายังอยู่ และมีการใช้เครื่องมือคือข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพโดยให้กองพลต่างๆ ออกมาตบเท้าทุกวัน

การพยายามรัฐประหารเป็นความล้าหลังซ้ำซากของรัฐที่ไม่ยอมให้ประชาชนเลือกผู้นำด้วยตนเอง โดยกลัวว่าจะได้พรรคและผู้นำที่ไม่พึงประสงค์ โดยไม่ต้องการให้เปิดเผยความจริงของการพยายามเข่นฆ่าประชาชน และประการต่อมาคือ การเกิดของ นปช. แดงทั้งแผ่นดิน ทั้งที่ปรากฏตัว และไม่ปรากฏตัวจะเป็นผู้เลือกพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย

ทั้งนี้ การเติบโตของคนเสื้อแดงทั้งคุณภาพปริมาณจะมีผลสำคัญต่อการต่อต้านการรัฐประหาร น่าเป็นห่วงการรัฐประหารโดยกองทัพไทยจะต้องถูกต่อต้านจากประชาชนไทย และนี่เป็นการทวนกระแสสังคมโลก

“จะมีอะไรเกิดขึ้นอีกกับสังคมไทย และจะมีคนบาดเจ็บล้มตายอีกเท่าไหร่ ทั้งนี้คนบาดเจ็บล้มตายไม่ใช่ดัชนีความรุนแรงแต่อย่างเดียว แต่ยังมีความล้าหลังที่เป็นดัชนีความเลวร้ายป่าเถื่อน ไม่เคารพความเท่าเทียมของสิทธิเสรีภาพของประชาชน หรือต้องรอให้คนตายอีกนับหมื่นคนจึงตระหนัก” นางธิดากล่าวในท้ายที่สุด

ถาม-ตอบ ระหว่าง แกนนำ นปช. กับ ผู้สื่อข่าวต่างประเทศ

ถาม: สถานการณ์การเมืองไทยขณะนี้ รวมถึงการปะทะกันที่ชายแดนไทย-กัมพูชาอาจเป็นสัญญาณว่าจะไม่มีการยุบสภาใช่หรือไม่

ณัฐวุฒิ: ผมมาพูดครั้งนี้เป็นครั้งที่สาม แต่ละครั้งชีวิตก็เปลี่ยนแปลงไปเป็นลำดับ ครั้งแรกเป็นโฆษกรัฐบาล ครั้งที่สองแกนนำเสื้อแดง ปัจจุบัน ผมเป็นผู้ก่อการร้ายแล้วครับ

สำหรับคำถามนั้นต้องบอกว่าเวลานี้ยังไม่มั่นใจว่าประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งจริงๆ เพราะสถานการณ์ทางการเมืองอธิบายว่า กลุ่มผู้คุมอำนาจไม่ประสงค์จะยอมรับผลการเลือกตั้งหากพรรคเพื่อไทยเป็นผู้ชนะ

มีการสำรวจข้อมูลการตัดสินใจของประชาชนหากมีการเลือกตั้งของหน่วยงานความมั่นคงหลายหน่วยงาน ผมได้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ว่าก่อนเทศกาลสงกรานต์มีการพบปะกันของนายทหารกองทัพบกกับกลุ่มชนชั้นนำสามสี่ท่าน ในระหว่างการสนทนามีการเอาผลสำรวจหรือโพลล์ฝ่ายความมั่นคงมาดู ปรากฏว่าพรรคเพื่อไทยจะได้รับการเลือกตั้งไม่ต่ำกว่า 250 ที่นั่ง มีการถามกันในเวลานั้นว่าตรวจสอบเรียบร้อยหรือยัง ผู้ที่นำผลสำรวจมาให้ก็คือนายทหารคนดังที่ทำหน้าที่แถลงข่าวให้กองทัพตลอดระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมายืนยันว่าตรวจสอบแล้วสองสามรอบ

ถ้าไปถามนักการเมืองที่เป็นแกนนำตัวจริงของพรรคการเมืองหลายพรรคที่ร่วมรัฐบาลอยู่ ท่าทีล่าสุดของคนเหล่านั้นก็มีความเชื่ออยู่ลึกๆ ว่าอาจจะไม่มีการเลือกตั้ง นี่เป็นข้อมูลที่ผมเพิ่งจะได้ฟังมา จากอดีตรัฐมนตรีของรัฐบาลทักษิณเล่าว่าไปพบอดีตรัฐมนตรีที่เคยร่วมรัฐบาลกัน

เพราะฉะนั้นสิ่งที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพูดออกมาจึงเป็นเรื่องที่ต้องรับฟังและติดตามความเคลื่อนไหวนี้อย่างใกล้ชิด ผมภาวนาว่าอย่าให้เหตุการณ์ปะทะกันระหว่างไทยกัมพูชาถูกอธิบายเป็นเหตุผลที่จะเลื่อนการยุบสภาออกไป เพราะหากเป็นเช่นนั้นมันจะกลายเป็นว่าเหตุปะทะรอบนี้มีเป้าหมายทางการเมืองของประเทศหนึ่งประเทศใดแอบแฝงอยู่

แต่ความเชื่อเดิมทั้งของผมที่พูดไว้ที่อุดรธานีและแกนนำบังเอิญตรงกันว่าสัญญาณที่จะไม่มีการเลือกตั้งจะปรากฏชัดเจนหลังนายอภิสิทธิ์ประกาศยุบสภา

แต่ถ้ามองจากท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ เขาอยากจะเลือกตั้งทันทีเลยถ้าทำได้ เพราะประชาธิปัตย์ประเมินได้ว่าการอยู่ในอำนาจต่อไปภายใต้สถานการณ์ขณะนี้จะไม่เป็นผลดีต่อพวกเขา จึงคิดว่าการตัดสินใจยุบสภาจะทำให้โอกาสในการกลับมาเป็นรัฐบาลของ ปชป. จะมีมากขึ้น แม้จะไม่มั่นใจว่าจะชนะเลือกตั้ง แต่เป็นหน้าที่ของอำนาจนอกระบบที่จะทำอย่างไรก็ได้ให้เขากลับมาเป็นรัฐบาล มีความเชื่อที่พูดกันตลอดเวลาใน ปชป. ว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คือนายกรัฐมนตรีที่ดีที่สุดในสถานการณ์ขณะนี้ ไม่ใช่ดีที่สุดของประชาชน แต่ดีที่สุดของระบอบอำมาตยาธิปไตย นี่คือปัญหาใหญ่ของประเทศไทย

ผมจึงอยากประกาศต่อทุกท่านและยืนยันต่อสังคมโลกว่าคนไทยต้องการการเลือกตั้ง และวิกฤตความขัดแย้งที่เกิดขึ้นหลังรัฐประหารจะมีโอกาสนับหนึ่งในการคลี่คลายก็ต่อเมื่อมีการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ตรงกันข้ามหากไม่มีการเลือกตั้งก็จะทำให้สภาพการณ์ที่เป็นอยู่ทวีความเข้มข้น มีสภาพขัดแย้งรุนแรงมากขึ้น จนมองไม่เห็นทางออกใดๆ เราไม่อยากเดินเข้าสู่กับดักของวิกฤต เราอยากเดินไปที่จุดเริ่มต้นของสันติภาพ และเราคาดหวังว่าบทบาทของสื่อมวลชนในทุกๆ ประเทศจะมีส่วนช่วยอย่างสำคัญต่อสิ่งนี้

ถาม: ใครคือผู้รับผิดชอบต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้นในตอนท้ายของการชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา

จตุพร: ความรุนแรงและการเผาเซ็นทรัลเวิลด์ และศาลากลางต่างๆ เป็นความพยายามของฝ่ายรัฐที่จะเผา เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นความตาย ความตายในวัดปทุมวนารามเป็นความตายก่อนที่จะมีการเผาเกิดขึ้นทั้งสิ้น ต้องมีการเผาเซ็นทรัลเวิลด์เพราะต้องการสร้างสถานการณ์ว่าคนเสื้อแดงเป็นผู้ก่อการร้าย เผาบ้านเผาเมือง เพื่อให้คนลืมความตาย

กรณีเซ็นทรัลเวิลด์ ผมและได้คุยกับหัวหน้าชุดปฏิบัติการดูแลเซ็นทรัลเวิลด์ โดยมีภาพถ่าย ทีวีวงจรปิดและภาพนิ่ง ว่าพวกเขามาดูแลอยู่เป็นเวลาสองเดือน เป็นห้างเดียวที่ไม่ได้ใช้ชุดบรรเทาสาธารณภัย เป็นการล็อกเป้าจงใจที่จะมีการเผา หัวหน้าชุดปฏิบัติการเซ็นทรัลเวิลด์นั้นเพราะเขาเห็นชะตากรรมคนเสื้อแดง ว่านอกจากความตายแล้วยังถูกกล่าวหา

อย่างช้าสัปดาห์หน้าจะมีหนังสือที่เป็นรายละเอียดทั้งหมดเรื่องการเผาเซ็นทรัลเวิลด์ เวลานี้ภาพถ่ายจากวงจรปิดจะถูกเปิดเผย

ในกรณีเซ็นทรัลเวิลด์ มีภาพถ่ายชายชุดดำ แต่ไม่แนบเนียบเพราะรองเท้าตรงกับทหาร เหตุการณ์การเผาเซ็นทรัลเวิลด์ กับการยิงที่วัดปทุมเป็นเวลาที่สอดคล้องกัน แต่ผมเองก็ถูกนำตัวไปสอบสวน

เวลานั้นทหารได้คุมสภาพเบ็ดเสร็จ รักษาการผู้บังคับการกองปราบฯ ก็ยังถูกทหารค้นตัว

เวลาเก้าเดือนที่ผ่านมา ถ้าชุดผจญเพลิงของเซ็นทรัลเขาเห็นว่าคนเสื้อแดงเผา เขาต้องฟ้องคนเสื้อแดง แต่ด้วยความเป็นมนุษย์ของเขา เขาเอาวิดีโอมาให้คนเสื้อแดง และตำรวจชุดเดียวที่มาดูแลห้างเซ็นทรัลคือชุดของวังสระปทุม ต่อมาล่าถอยออกไป และกำลังที่มาผลักให้ตำรวจออกไปนั้นเป็นทหาร

กรณีศาลากลางอุบลราชธานี มีการจับกุมตัวคน 22 คน และยังไม่มีการปล่อยตัว ผู้ว่าฯ อุบลราชธานีบอกว่าขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่ 80 คนทำงานอยู่ ไม่มีอาวุธ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า เวลานั้นมีตำรวจและอาวุธครบมือ 800 คน โดยตำรวจที่ทำสำนวนมาสารภาพกับผมว่า พฤติการณ์ที่ศาลากลางนั้น เป็นการเทน้ำมันจากชั้นบนลงสู่ชั้นล่าง นี่คือตัวอย่างของข้อมูลที่ให้การไม่ตรงกัน

ที่ศาลากลางอุดรธานี ข้าราชการที่ควบคุมอำนวยการดูแลศาลากลางฯ ได้สารภาพกับ ส.ส. วิเชียร ขาวขำ โดยที่วันเกิดเหตุมีกำลัง อส. แต่ก่อนเกิดเหตุมีกำลังทหารติดอาวุธเข้าไปเผาศาลากลาง แต่ประชาชนที่อุดรธานี มีการนัดหมายว่าหากมีการสลายการชุมนุมจะไปรวมตัวกันที่ศาลากลาง

นี่คือการสวมรอย เหมือนการเผารถเมล์ 52 คัน คนขับรถเมล์ให้ปากคำว่าคนที่มาปล้นรถเมล์ไปนั้นเป็นทหาร เมื่อมีการสอบสวนแล้ว กมธ. สภาฯ ไม่กล้าเปิดเผย

ถาม: การสำรวจความคิดเห็นของประชาชนไม่แน่นอน ถ้าเราตั้งสมมติฐานว่าเราไม่รู้ว่าใครจะชนะหรือแพ้ ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่ชนะพร้อมที่จะยอมรับรัฐบาลที่ชนะการเลือกตั้งหรือไม่และในสถานการณ์ไหนที่ยอมรับและในสถานกาณณ์ไหนที่จะออกมาประท้วง

ณัฐวุฒิ: หากการเลือกตั้งโดยบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่ว่าพรรคการเมืองใดชนะ เรายินดียอมรับผลการเลือกตั้ง ถ้าประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้ง เรายินดีที่จะยอมรับโดยไม่มีการคัดค้านใดๆ ผมเรียนว่าที่ผ่านมาเราไม่เคยออกมาต่อสู้เพราะแพ้เลือกตั้ง เราเป็นประชาชนส่วนมากในประเทศที่เลือกพรรคการเมืองที่เราสนับสนุนและได้เป็นรัฐบาลแล้วรัฐบาลของเราถูกทำลายครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยวิธีของผู้เผด็จการ เราจึงต้องออกมาต่อสู้

ผมอยากจะฝากคำถามเดียวกันนี้ว่า ถ้าเจออภิสิทธิ์ หรือทหารใหญ่ ว่าถ้าการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคเพื่อไทยชนะ เขาจะยอมรับและปล่อยให้จัดตั้งรัฐบาลตามเจตนารมณ์ของประชาชนหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเราไม่เคยไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง เขาต่างหากที่ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งจนเป็นปัญหาจนทุกวันนี้

สถานการณ์ที่เราจะออกมาต่อสู้ ก็คือ ถ้าผลการเลือกตั้งปรากฏว่าพรรคการเมืองที่ได้รับเสียงเป็นอันดับหนึ่งแล้วไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ มีการแทรกแซงจากอำนาจนอกระบบให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เราจำเป็นต้องต่อสู้

ผมเข้าใจแนวปฏิบัติทั่วโลกว่า หากพรรคอันดับหนึ่งไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ พรรคอันดับรองลงไปสามารถเป็นแกนนำ แต่ความจริงของประเทศไทยคือ มีพรรคการเมืองเดียวเท่านั้นที่ชนะการเลือกตั้งได้แล้วไม่ได้เป็นรัฐบาล นั่นคือพรรคเพื่อไทย

ถาม: เคยสัมภาษณ์เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่สูญเสียดวงตาเพราะเขาร่วมชุมนุม เขาบอกว่า การต่อสู้นั้นขึ้นกับแกนนำ

จตุพร: มีการพยายามสร้างสถานการณ์ ขณะที่มีกระสุนปืนจำนวนมากถูกใช้กับคนเสื้อแดง อย่างไรก็ตาม หากถามว่า จะเจรจากันได้หรือไม่นั้น ต้องตอบว่าการเจรจาเกิดได้ทุกวัน แต่คำถามคือความยุติธรรมจะเกิดได้หรือเปล่า สิ่งที่สำคัญคือการสร้างความเสมอภาค ความเป็นภราดรภาพ ความเป็นพี่เป็นน้องกัน

ถาม: ถามคุณธิดา ว่าเมื่อประมาณ 1 เดือน หลังเหตุการณ์ ให้สัมภาษณ์โพสต์ทูเดย์ว่าเป็นห่วงคนเสื้อแดงและความปลอดภัยของสามี เข้าใจว่ามีการไล่สมาชิกของ นปช. บางคนออกเพราะสนับสนุนความรุนแรง แต่ขณะนี้คนเหล่านั้นยังมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง

ธิดา: ประการแรก ถ้าคุณอ่าน โพสต์ทูเดย์ คุณต้องเช็คก่อนว่าข้อมูลที่นำเสนอนั้นถูกต้องหรือเปล่า เพราะปัญหาของสื่อเมืองไทยนั้นคือการแบ่งข้างชัดเจนทั้งเรื่องผลประโยชน์และชนชั้น

ด้วยเหตุนี้การต่อสู้ของคนเสื้อแดงจึงไม่ค่อยได้รับการนำเสนอต่อสังคมภายนอก หากสังคมภายนอกอ่านเฉพาะสื่อที่เป็นของประเทศไทย

ประการที่สอง สิ่งที่โพสต์ทูเดย์ เขียนนั้น อาจจะเป็นปัญหาเรื่องข้อมูลและการถ่ายทอดข้อมูลด้วย จึงอยากได้คำถามจากท่านโดยตรงมากกว่าโดยไม่ต้องอ้างโพสต์ทูเดย์

ผู้สื่อข่าวคนเดิม ถาม: บทความในโพสต์ทูเดย์เป็นคำสัมภาษณ์คำต่อคำ จึงเชื่อว่าน่าเชื่อถือ แต่อยากถามโดยตรง ว่าเป็นห่วงหรือไม่ ว่าสามีจะเป็นอันตรายจากคนเสื้อแดง

ธิดา: ในความเป็นจริง ไม่มีคำถามและคำตอบเรื่องนี้เลย แต่ตอบได้ว่า การเข้ามาเกี่ยวข้องกับคนเสื้อแดงไม่ใช่เข้ามาในฐานะของภรรยาของ นพ.เหวง โตจิราการ แต่ในฐานะนักต่อสู้ นี่เป็นเหตุผลประการแรกที่ท่านต้องทราบก่อน

การห่วงคือห่วงการต่อสู้ของประชาชนไม่ใช่ นพ.เหวง โตจิราการ คือห่วงทุกคนไม่ใช่เฉพาะแกนนำ แต่เป็นการเป็นห่วงคนเสื้อแดงทุกคนที่ถูกจับกุมคุมขังและถูกไล่ล่า นี่เป็นประเด็นสำคัญว่านักต่อสู้นั้นเอาเรื่องส่วนตัวตั้งต้น หรือเพื่อส่วนรวม ดังนั้นคำถามนี้ ขอปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นเรื่องส่วนตัว และเหตุผลที่เข้ามารับเป็นประธานการต่อสู้ของคนเสื้อแดงคือความเป็นห่วงขบวนการ ต้องขอโทษหมอเหวงในฐานะสามีด้วยว่าไม่ได้ห่วงเขามากกว่าคนอื่น

ถาม: ถ้าผลการเลือกตั้งเพื่อไทยได้เสียงมากที่สุด แต่ไมได้เสียงส่วนใหญ่ แล้วในที่สุดพรรคประชาธิปัตย์สามารถตั้งรัฐบาล ท่านจะยอมรับหรือไม่

ณัฐวุฒิ: นี่แหละที่เป็นปัญหา คือ พรรคการเมืองใดก็ตามที่ได้เสียงอันดับหนึ่งจะได้เป็นรัฐบาลได้ทั้งหมด ยกเว้นพรรคเพื่อไทย เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะสื่อสารมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศรายงานตรงกันว่ามีอำนาจนอกระบบจะไม่ยินยอมให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะมีการจัดการทุกวิถีทางแม้พรรคเพื่อไทยจะเป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้ง ผมคิดว่าท่านคงไม่หวังว่าจะให้เรายอมรับสิ่งนี้ เพราะถ้าการยอมรับสิ่งนี้ นี่ไม่ใช่การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

ถาม: เมื่อมีการเจรจาก่อนที่จะสลายการชุมนุม ทางรัฐบาลเสนอว่าควรจะมีการเลือกตั้งเดือน พ.ย. แล้วทางเสื้อแดงมีความเห็นแตกต่างกัน บางคนเห็นด้วย บางคนไม่เห็นด้วย รัฐบาลอ้างว่าเพราะทางเสื้อแดงไม่ยอมรับข้อเสนอเพราะนายกฯทักษิณต้องการการนิรโทษและอนุญาตให้กลับบ้าน จริงหรือไม่ บทบาทของทักษิณในเรื่องนี้เป็นอย่างไร และถ้าพรรคเพื่อไทยสามารถที่จะนำรัฐบาลต่อไปจะให้ทักษิณกลับมาหรือไม่

จตุพร: การเสนอยุบสภาของอภิสิทธิ์เวลานั้นมี 2 ช่วง ช่วงแรกที่มีการเจรจากันนั้นคุณอภิสิทธิ์ ของ 9 เดือน แต่เราเสนอ 15 วัน รวมรักษาการสองเดือนเป็นสองเดือนครึ่ง แต่คุณอภิสิทธิ์ไม่ยอมรับ มีการอ้างว่าคุณทักษิณโทรหาผม แต่ผมอยากให้ไอซีทีตรวจสอบได้ เพราะคนที่โทรหาผมคือณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ

ช่วงที่สองหลังวันที่ 10 เม.ย. ซึ่งถ้าไม่มีความตายและผู้บาดเจ็บ ผมในฐานะนักเลือกตั้ง หากเราได้วันเลือกตั้ง โดยไม่สนใจคนที่บาดเจ็บและสูญเสีย มันชี้ความเห็นแก่ตัวของนักเลือกตั้ง เพราะคุณเอาความตายไปแลกกับวันเลือกตั้งไม่ได้

ไม่มีใครปฏิเสธการเลือกตั้งว่าคนเสื้อแดงขอต่อสู้ทุกคดี ไม่ว่าจะเป็นคดีผู้ก่อการร้าย หรือล้มสถาบัน โดยไม่ขอนิรโทษกรรม แต่เมื่อมีการฟ้องร้องคดีต่อนายสุเทพและนายอภิสิทธิ์ที่สั่งการทำร้ายประชาชน นายอภิสิทธิ์นั้นได้รับเอกสิทธิ์ ส.ส. เหมือนกับผม แต่นายสุเทพนั้นไม่มีเอกสิทธิ์ กลับเดินทางไปดีเอสไอ เพื่อรับฟังว่ามีข้อกล่าวหาเท่านั้น ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติที่ไม่เคยเกิดขึ้น

ณัฐวุฒิ: ขอเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พ.ต.ท. ทักษิณ ว่า ผมไม่สนใจว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะได้กลับเมืองไทยเมื่อไหร่ จะได้รับทรัพย์สินที่ถูกยึดไปคืนหรือไม่ แต่สิ่งที่ผมเรียกร้องก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณต้องได้รับความยุติธรรมจากทุกกระบวนการในประเทศไทย

ถ้าหากจะมีคำอธิบายว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับพ.ต.ท. ทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นการยึดทรัพย์ หรือคดีของ หากถูกอธิบายว่าเป็นการกระทำที่ยุติธรรมเป็นสิ่งที่ผมยอมรับไม่ได้

หากคนที่ได้รับการเลือกตั้งยังไม่ได้รับความยุติธรรม ก็ไม่มีความหวังว่าประชาชนจะได้รับสิ่งนี้ และประเทศที่ไร้ซึ่งความยุติธรรม หรือมีความยุติธรรมเป็นสองมาตรฐาน ประเทศนั้นจะมีความเป็นประชาธิปไตยได้อย่างไร เราจึงต้องต่อสู้ ผมไม่ยอมให้สื่อมวลชนที่นี่อยู่ในประเทศที่ไม่เป็นประชาธิปไตย

คำถาม: ทั้ง 18 คนที่เป็นผู้นำถูกกล่าวหาด้วยข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ท่านคิดว่าต้องต่อต้านมาตรา 112 หรือไม่

จตุพร: ในประเทศไทยตลอดระยะเวลา 70 กว่าปีที่ผ่านมา ประเด็นที่เกี่ยวพันกับพระมหากษัตริย์ ได้ถูกทหารและนักการเมืองหยิบใช้ ทหารหยิบใช้เพื่อทำการรัฐประหาร นักการเมืองใช้เพื่อประโยชน์ของฝ่ายตัวเองและทำลายฝ่ายตรงข้าม เพราะฉะนั้นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ต้องทรงอยู่เหนือการเมือง แต่เนื่องจากการรัฐประหารทุกครั้งที่เกิดขึ้น แม้แต่วันที่ 19 ก.ย. 49 ก็มีการกล่าวอ้างสถาบัน

การดำเนินคดีกับพวกเรา 18 คน บางคนถูกคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เพราะยืนอยู่ข้างผมขณะปราศรัย บางคนไม่ได้พูดสักคำ แต่ยืนอยู่ข้างผม ปรากฏว่าดีเอสไอระบุว่า ต้องดำเนินคดีเพราะไม่ห้ามปรามผม ท่านทั้งหลายที่ฟังผมก็อาจจะถูกดำเนินคดีเพราะไม่ห้ามปรามผม

ธิดา: ดิฉันถูกมาตรา 112 ด้วย แม้ว่าขณะนั้นไม่ได้ยืนอยู่ด้วย แต่ยืนอยู่ข้างล่างเวที แต่ไม่ได้วิ่งขึ้นมาห้ามปราม

ณัฐวุฒิ: จุดยืนของ นปช. คือการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขโดยอำนาจอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง เราไม่มีปัญหาใดๆ กับการดำรงอยู่ของสถาบันพระมหากษัตริย์และไม่คิดว่าการต่อสู้ของเราจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับสถาบัน เพียงแต่ มีการใช้ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับสถาบันพยายามที่จะทำลายการต่อสู้ของเราตลอดเวลา

คำถามเรื่องมาตรา 112 ผมมีคำอธิบายว่ามีนักวิชาการและประชาชนกลุ่มหนึ่งเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ มีข้อเสนอทางวิชาการจากนักวิชาการกลุ่มดังกล่าว ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องที่สังคมไทยรับฟังสิ่งนี้ได้ ปัญหาที่ผ่านมาก็คือ สังคมไทยมีแต่ทุกฝ่ายที่พูด ไม่มีใครฟังใคร เพราะฉะนั้นการรับฟังก็จะทำให้เกิดความเข้าใจกันและกันมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม นปช. แดงทั้งแผ่นดิน ไม่ได้มีแนวทางหรือไม่ได้มีมติที่จะเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ แต่สิ่งที่เราเจ็บปวดที่สุดเวลานี้ก็คือมีการใช้ข้อกล่าวหาจากมาตรา 112 กับคนในประเทศอย่างไม่เท่าเทียมกัน มีการแจ้งความดำเนินคดีกับคุณจตุพรและพวกเราอย่างรวดเร็วด้วยท่าทีที่ดุดันของกองทัพ แต่กลับจงใจเพิกเฉยต่อกรณีที่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายอานันท์ ปันยารชุน และพลเอกสิทธิ เศวตศิลา สนทนากับนายอิริค จอน เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย โดยมีการแสดงความเห็นอย่างรุนแรงซึ่งเนื้อหาปรากฏในเดอะการ์เดียน ปรากฏในวิกิลีกส์ มีการไปแจ้งความดำเนินคดี แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ

ถาม: กรณีชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนไทย-กัมพูชา กว่าห้าหมื่นคน คิดว่าพรรคเพื่อไทยจะจัดการปัญหานี้ได้ไหม

จตุพร: ถ้าพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งเราจะไม่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเหมือนนายกษิต ภิรมย์ และเราจะแสวงหามิตรประเทศ ไทยกับกัมพูชานั้นผูกพันกัน กัมพูชาซื้อของไทยถึงแปดหมื่นกว่าล้านบาท ไทยซื้อกัมพูชาแปดพันล้านบาท เราไม่มีเหตุผลที่จะขัดแย้งกัน

เพราะฉะนั้น ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะไม่มีสงคราม ประชาชนสองชาติจะไม่เดือดร้อน มีแต่สัมพันธภาพของความเป็นพี่เป็นน้อง เสียงปืนของมิตรประเทศจะไม่เกิดในรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย

ธิดา: ในฐานะที่ขณะนี้ระบอบอำมาตยาธิปไตยมีอิทธิพลครอบงำ เราสามารถเข้าใจวิธีคิดก็คือ การที่เราสามารถทำนายได้แต่ต้นแล้วว่าน่าจะเกิดสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านเพราะวิธีคิดของพวกสุดโต่งอนุรักษ์นิยมจะมีลักษณะที่นิยมก่อสงครามภายนอกเพื่อกลบเกลื่อนความขัดแย้งภายใน

จตุพร: ผมเพิ่มประเด็นว่า ท้ายสุดของสงครามไทยกัมพูชานั้นที่สุดจะนำไปสู่การรัฐประหารหรือไม่ มีการสัมภาษณ์กับภรรยาของทหารที่เสียชีวิตกล่าวว่า สามีโทรมาแจ้งว่าหลังจากนี้ไม่กี่ชั่วโมง จะมีการปะทะ แปลว่ารู้ล่วงหน้า แต่ผมไม่ได้อยากจะกล่าวหา หน้าที่ของเราคือหยุดสงคราม แต่ถ้าการทำสงครามนำไปสู่การปฏิวัติ เพราะขณะที่มีการทำสงครามไทยกัมพูชา ก็มีการปิดวิทยุชุมชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล

ฉะนั้น การทำสงครามและตัดการสื่อสารวิทยุชุมชนด้วยนั้น ทำให้คิดได้ว่าน่าจะนำไปสู่การปฏิวัติรัฐประหาร

ธิดา: ขอเพิ่มเติมว่า กลุ่มของเรามุ่งชูสโลแกน ต่อต้านรัฐประหาร คัดค้านสงคราม ทวงความยุติธรรม มาแต่ต้นปีแล้วเพราะเราคาดไว้แล้วว่าแนวคิดล้าหลังของพวกอนุรักษ์นิยมสุดโต่งจะก่อให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้

และขอทำนายว่า จะมีการรัฐประหารมากกว่าการเลือกตั้ง วิธีคิดของเขาน่าจะปิดประเทศและก่อสงคราม รวมถึงมีแนวคิดปิดประเทศ 5 ปี เพราะกลัวการเลือกตั้ง ไม่ทราบว่าสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศจะยังอยู่หรือไม่

ถาม: เมื่อวานบางกอกโพสต์ลงบทสัมภาษณ์วีระกานต์ ซึ่งมีการวิพากษ์ว่าแกนนำแตกแยก และบางส่วนไม่หวังดีต่อสถาบัน และมีบางส่วนตามความต้องการของประชาชนมากเกินไป

ณัฐวุฒิ: ไม่มีความแตกแยกในกลุ่มแกนนำ แต่ยอมรับว่าความแตกต่างทางความคิดมีอยู่ ความแตกแยกหมายความว่ามิได้อยู่ด้วยกันฉันมิตร แต่สำหรับเราความเป็นพี่น้อง ความผูกพันทุกอย่างยังคงเดิม เพียงแต่มิติทางความคิดบางอย่างเท่านั้นที่แตกต่างกัน แต่ถ้าทุกคนยังหันหน้าไปในทิศทางเดียวกันคือประชาธิปไตย ก็สามารถร่วมทางได้ตามแนวความคิดของแต่ละคน ส่วนประเด็นเกี่ยวกับสถาบันนั้นผมยืนยันว่ามีความเป็นเอกภาพมีความเป็นหนึ่งเดียว คือจุดยืนตามที่ผมอธิบายไปแล้ว

จตุพร: ความเห็นของคุณวีระ เป็นความแตกต่าง ซึ่งถือเป็นความงดงามตามระบอบประชาธิปไตย เพราะประชาธิปไตยก็คือการมีความแตกต่างแต่เส้นทางที่เดินคือเสียงส่วนใหญ่ที่เป็นฝ่ายกำหนด

ประเด็นต่อมาก็คือ ในกระบวนการที่มีประชาชนที่มีความหลากหลาย คนที่เป็นผู้นำต้องมีความรับผิดชอบ ผมจึงเห็นว่าไม่ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรที่เห็นว่ามีอันตรายก็ต้องแก้ไข ทั้งหมดนั้นผมยืนยันว่าแนวทางของ นปช. เป็นไปตามที่ นปช. ประกาศไว้ทุกประการ

ธิดา: ขอตอบเรื่องสถาบันและปัญหาการนำ คือสองเรื่องนี้สัมพันธ์กัน อยากจะเรียนว่าเรานำด้วยหลักการ

ในการนำโดยหลักการ เราจึงต้องมีหลักนโยบาย ซึ่งเรามีหลักเกี่ยวกับกับการเมืองการปกครองคือเราต้องการระบอบการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขโดยอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง นี่คือหลักการที่เราเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร

ประการต่อมา เราใช้การนำรวมหมู่ เราจึงต้องใช้วิถีทางประชาธิปไตยในแกนนำ เพราะเป้าหมายของเราคือประชาธิปไตย ต้องใช้เสียงส่วนใหญ่ในการตัดสินเรื่องสำคัญๆ

ถาม: การชุมนุมครั้งต่อไปจะมีหรือไม่

จตุพร: กฎหมายเลือกตั้งระบุแล้วว่านักการเมืองทำอะไรได้บ้าง แล้วประชาชนทำอะไรได้บ้าง เช่น การรำลึก 19 พ.ค. จะทำอะไรได้บ้าง

สำหรับคำถามว่าจะมีการชุมนุมอีกหรือไม่ ต้องบอกว่าการชุมนุมนั้นเป็นการระดมความคิด และจริงๆ แล้วมีทุกวัน เช่นวันนี้ก็มีที่สระบุรี

ถาม: หลังการสลายการชุมนุม มีแกนนำบางคนบอกว่าจะลงใต้ดิน จะหนีและต่อสู้โดยใช้อาวุธ แม้ว่าที่ผ่านมาไม่มีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น แต่ถ้าหากยังยืดเยื้อไม่มีประชาธิปไตย เป็นไปได้ไหมว่าจะมีการใช้อาวุธและความรุนแรง

ธิดา: เราไม่ใช้อาวุธ เราเคลื่อนไหวอย่างสงบและสันติ นี่คือหลักการของ นปช. คำถามว่าหากการต่อสู้ยืดเยื้อจะมีอนาคตเช่นไร ที่ผ่านมาเราก็ต่อสู้ยืดเยื้อมาห้าปี ทำจากการไม่มีการจัดการองค์กร จนกระทั่งรวมตัวเป็นองค์กรได้ เราหวังว่าเราจะต่อสู้ได้ยืดเยื้อและมีระบบมากขึ้น แม้แต่หนังสือที่เรามีก็คือส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะจัดโรงเรียนเพื่อยกระดับแกนนำของเรา

เราเลือกสันติวิธีเพราะเราต้องการชัยชนะที่แท้จริง นปช. ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับเรา และเข้มแข็งมากขึ้นทุกวันๆ เพราะเราเลือกสันติวิธี

แต่แน่นอนว่าอาจจะมีบางส่วนที่ไม่เชื่อในหนทางสันติวิธี ซึ่งเขามีสิทธิคิดต่างและนั่นเป็นเรื่องในอนาคตที่มีปัจจัยหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งอำนาจรัฐ แต่เรา นปช. เราจะทำตามพันธสัญญาที่ตกลงกันไว้ เราจะทำให้ดีที่สุด เพื่อให้ได้ชัยชนะ ให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยและประชาชนมีความสุขอย่างแท้จริง

ณัฐวุฒิ: พวกเรามีความเชื่อตรงกันว่าการต่อสู้ของเราเป็นการต่อสู้ระยะยาว ดังนั้น หากการต่อสู้นี้จะยืดเยื้อออกไปย่อมไม่เป็นเหตุผลให้เราเปลี่ยนแนวทางจากสันติวิธีไปจับอาวุธ ใช้ความรุนแรง เพราะผมเชื่อว่า เวลาอยู่ข้างเรา ท่านทั้งหลายเชื่อเหมือนผมไหมครับ (เสียงปรบมือ)

จตุพร: การชุมนุมของ นปช. ทั้งหมดที่เป็นมติ คือสันติวิธี เราเชื่อว่ามือเปล่าจะชนะกองทัพ เพราะเราจะไม่มีทางเอาอาวุธมาสู้ให้ชนะกองทัพ

ธิดา: สนามการต่อสู้ของเราคือความชอบธรรม ไม่ใช่สนามรบ

วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2554

54> ถอดคำพูดจตุพรคำต่อคำ 10เม.ย.2554

ความเคลื่อนไหวคนเสื้อแดง เว็บนี้ครับ....

ท่าน นายกฯทักษิณ ชินวัตร แถลงนโยบาย พรรคเพื่อไทย "ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ" ที่ศูนย์ธรรมศาสตร์ รังสิต วันที่ 23 เมษายน พ.ศ.2554


clipภาพ&เสียงตั้งแต่เริ่มงาน คลิกที่นี่...


clipภาพ&เสียงท่านอื่นๆ คลิกที่นี่...


คลิกที่นี่...แถลงข่าว นปช. 21เม.ย.2554 อิมพีเรียล ชั้น 5



ถอดคำพูดจตุพรคำต่อคำ 10เม.ย.2554

พี่น้องที่รักทั้งหลาย เราเพียงแค่เรียกร้องให้มีการยุบสภา เพราะรัฐบาลของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้มาจากการปล้น ตั้งแต่เริ่มต้นจากศาลรัฐธรรมนูญ จนไปจัดตั้งรัฐบาลในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์

ผมเตือนคุณแล้วไม่ใช่หรือ คุณอภิสิทธิ์ คุณสุเทพ จำผมไม่ได้หรือ ผมบอกว่า คุณจะเอาทหารหน่วยไหนมาฆ่าผม คุณใช้งบประมาณหกพันล้าน คุณเอาหน่วยไหนมาฆ่า พวกผมยังไม่เจ็บปวด ยกเว้นสองหน่วย อย่าเอามาฆ่าผมได้ไหม คือ หนึ่ง ทหารรักษาพระองค์ สอง ทหารเสือราชินี เพราะพวกเรามีความเจ็บปวด (โห่ยาวนาน) ...ว่าเป็นกระสุนพระราชทานใช่ไหม

ผมไม่ได้บอกว่า ไม่ได้ให้คุณฆ่าผม แต่ทหารเสือราชินีกับทหารรักษาพระองค์ คุณอย่าเอามาฆ่า เพราะฆ่าแล้ว ผมมันเจ็บปวด ประชาชนมันเจ็บใจ ผมก็อยากให้วู้ดดี้เชิญนายจตุพร หรือนางพเยา อัคฮาด ไปออกรายการบ้าง เพราะเราไม่ได้เกิดมาคุยแต่ พวกเราเกิดมาตาย ตาย ตาย ตาย (โห่ยาวนาน)

พี่น้องที่รักทั้งหลาย วันนี้ พล อ ประยุทธ จันโอชา นายสุเทพ นายอภิสิทธิ์ คุณไม่มีสิทธิ์จะพูดว่า คนเสื้อแดงล้มสถาบัน คนที่ล้มสถาบันตัวจริง คือ คนเอาทหารรักษาพระองค์ เอาทหารเสือราชินี มายิงหัวประชาชน ครบรอบปีคุณจะยิงใหม่ใช่ไหม ฆ่าแล้วเป็นยังไง เสื้อแดงยิ่งเต็มแผ่นดินไม่ใช่หรือ ใครที่ทำให้บ้านเมืองเป็นแบบนี้ ใครที่ทำให้บ้านเมืองเป็นแบบนี้ เขามีความเจ็บปวด พี่น้องที่รักทั้งหลาย ยิงคนเสื้อแดงบอกว่าปกป้องสถาบัน ยิงคนเสื้อแดงบอกว่าจงรักภักดี ทั้งที่คนเสื้อแดงไม่เคยทำอะไร เป็นไพร่ที่ดี เป็นไพร่ที่ดีมาฆ่าทำไม (โห่ยาว) ถามว่าฆ่าทำไม ยุบสภาได้ยินไหม ไม่ใช่ล้มเจ้า

มีประเทศใดบ้างในโลกนี้ ฆ่าลูกเพื่อปกป้องพ่อ ฆ่าลูกเพื่อพ่อ ฆ่าลูกเพื่อแม่ มีไอ้ประเทศบ้าประเทศนี้เดียว (โห่ยาว)

พี่น้องที่รักทั้งหลาย ผมเตือนแล้วไม่ใช่หรือ ผูกคอฟ้า ซีลสีชมพู ยิงบนรถรางไฟฟ้า ใส่วัดปทุม สลัดสีชมพู สลัดสีฟ้าไม่ออกแล้ววันนี้มาโทษคนที่ตายทำไม เราไม่เคยล้มสถาบันเลย แต่เขาเอาทหารเสือราชินี ทหารรักษาพระองค์ มาฆ่าเรา มาฆ่าเรา มาฆ่าเรา (โห่ยาวนาน)

ไม่เข้าใจภาษาคน บอกยุบสภา มันบอกว่าล้มสถาบัน ยิงลูกเพื่อพ่อ ยิงลูกเพื่อแม่ ท้ายที่สุด วันนี้คุณมาบอกว่า ให้ทุกคนปกป้องสถาบัน แล้วทีพล อ เปรม ที่สัมภาษณ์ วิกีลิกส์ ประทุษร้ายองค์รัชทายาท มีใครไปจับพล อ เปรมบ้าง จะเอาสมเด็จพระบรม ถึงขนาดเอาให้หายไป จะอุ้มองค์รัชทายาท ปรากฏว่าพวกปกป้องสถาบัน เงียบสนิท แปลว่าพวกคุณ ประทุษร้ายต่อองค์รัชทายาทได้ใช่ไหม ประเทศนี้ เอาแบบนี้ใช่ไหม

พี่น้องที่รักทั้งหลาย ทีพวกเราออกมาเคลื่อนไหวถูกฆ่าตาย พอลุกขึ้นมาต่อสู้ อภิปรายไม่ไว้วางใจ โพลล์ไปสำรวจบอกว่าคนไม่เชื่อสุเทพ 70 % ปรากฏว่าสุเทพชี้ธงชี้นายกทักษิณว่าพวกล้มสถาบันแปลว่าประเทศนี้ ไอ้พวกล้มสถาบันมี 70% แล้วใช่ไหม สุเทพ เทือกสุบรรณ ความจริงเขาเกลียดคุณ แต่คุณไปอุ้มสถาบัน แล้วไอ้พวกปกป้องสถาบันทั้งหลาย ไม่มีใครเตือนเลย บอกแล้วว่า คนเสื้อแดงนั้น ตาสว่างแล้ว อำมาตย์เล่า คุณตาสว่างแล้วหรือยัง พล อ เปรม ติณสูลานนท์ ครบรอบปีขอโทษแม่คนตาย ลูกคนตายสักคำไม่ได้หรือ

พี่น้องที่รักทั้งหลาย มันฆ่าพี่น้องคนไทย ฆ่าเสร็จก็ไปเผาเซ็นทรัลเวิลด์ ศาลากลางจังหวัด เพื่อกลบความผิดของตัวเอง แล้วไปยัดเยียดความผิดให้กับคนเสื้อแดง ว่าพวกนี้สมควรตาย เผาบ้านเผาเมือง เป็นผู้ก่อการร้าย ล้มสถาบัน จึงสมควรตายแล้ว ไอ้ไพร่เอ๋ย (โห่ยาว) ปรากฏว่าความตาย 91 เป็นความตายที่ใครไม่ได้ยิน คนในประเทศนี้เห็นแต่ควันไฟ แต่ไม่ได้เห็นศพ 91 ศพ บาดเจ็บ 2000 เลยพี่น้องที่รักทั้งหลาย

ความตายที่ขจรไกลไปทั้งโลก ฮิโรยูกิ โมราโมโต้ นักข่าวอิตาลี ฟาบิโอ และอีก 90 กว่าชีวิต เขาเป็นคนไทย ออกจากบ้านมา บอกเมียว่าออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย พี่น้องที่รักทั้งหลาย เขาเป็นลูกที่ดีของประเทศนี้ แต่โชคร้ายลูกบางคนไปบอกพ่อว่า ไอ้นี่ มันจะล้มพ่อ ฆ่ามันเถอะ

วันนี้ เราต้องการความรับผิดชอบ สังคมไทย พี่น้องที่รักทั้งหลาย ความตายอยู่ตรงหน้า บางศพยังไม่ได้เผา ไม่มีคำว่าขอโทษ ไม่มีคำว่าเสียใจ ไม่มีคำว่าเห็นใจ พร้อมใจกันใจดำทั้งประเทศ แล้วมาบอกว่าปรองดอง คุณมาบอกว่าปรองดอง คุณบอกว่าไม่ปรองดองกับผู้ก่อการร้าย คุณจำผมไว้เลย ชาตินี้ผู้ที่ตายและพวกอยู่ฝ่ายถูกฆ่า จะไม่มีวันปรองดองกับฆาตรกรโดยเด็ดขาด เช่นเดียวกัน

พี่น้องที่รักทั้งหลาย บ้านเมืองนี้ไม่ให้ใครฆ่าใคร ไพร่ฆ่าไพร่ก็ผิด อำมาตย์ฆ่าไพร่ก็ผิด ไพร่ฆ่าอำมาตย์ก็ไม่ได้ แปลว่าประเทศไทยไม่ว่าใครก็ตามคุณจะฆ่าใครไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะสูง ไม่ว่าคุณจะต่ำ ไม่ว่าคุณจะไพร่ ไม่ว่าคุณจะเป็นอำมาตย์ คุณก็เป็นผู้ฆ่าและก็เป็นฆาตรกร และคุณก็จะต้องได้รับโทษเฉกเช่นเดียวกัน กฎหมายอาจจะเอื้อมไม่ถึง วันนี้ 13 ศพ ชัดเจนทหารฆ่า 64 ศพ ความจริงก็ทหารฆ่ามันไม่กล้าสอบสวนต่อ แต่มันบิดเบือนยื้อคดีความกันไป ไม่เป็นไรครับ คุณคิดว่าคุณชนะ คุณทำไปเลย ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่า ประเทศนี้พระสยามเทวาธิราชมีจริงหรือไม่ ถ้ามีจริง ทำไมท่านไม่ทำงานของท่านไป เอาไอ้ฆาตรกรมาลงโทษ ให้ฆาตรกรชดใช้กรรม ไปไหนเสียครับพระสยามเทวาธิราช ไปไหน 91 ศพ ได้ยินไหมพระสยามเทวาธิราช ปล่อยฆาตรกรลอยนวลได้อย่างไร พระสยามเทวาธิราช (โห่ยาว)

* * * * *

คุณ payai 97 จาก PT ให้ความเห็นน่าฟังครับ

คุณจตุพรก็พูดเรื่องจริงทั้งนั้น มีเรื่องไหนบ้างที่ไม่เป็นความจริง

และเป็นความจริงที่คนทั้งประเทศและโลก ก็รับรู้เท่าๆกันพร้อมๆกันด้วยซ้ำ

1..รัฐบาลนี้ปล้นอำนาจของประชาชน แล้วไปตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร จริงหรือไม่...ถ้าไม่จริง ทำไมคนเขาพูดเรื่องนี้มากว่า 2 ปี ไม่เห็นมีใครออกมาปฏิเสธเลยว่าไม่จริง

2..ประชาชนออกมาชุมนุมเรียกร้องให้ยุบสภา เหตุผลคือ ประชาชนเขาจะเอาอำนาจที่ถูกต้องของเขาคืน มีตรงไหนที่บอกว่าจะมาขออย่างอื่น หรือทำอย่างอื่น

3..จริงไหมที่ทหารออกมา ถือปืนสงครามพร้อมลูกปืนครบเซ็ทกันทุกคน คลิปทหารถือปืนนั่งยิง เดินยิง หมอบยิง นอนยิง และยังแอบซุ่มยิง มีเกลื่อนทุกเว็บในอินเทอร์เน็ท

4..ภาพที่ปรากฏในคลิปและที่ผู้ร่วมชุมนุมเห็นกับตา ทหารจำนวนมากติดสีชมพูที่หมวกด้านหลัง ผูกผ้าพันคอสีฟ้า มันหมายความว่าอย่างไร

5..มีประชาชนถูกยิงตายในวัดปทุม 6 ศพ ทุกศพถูกยิงตายด้วยกระสุนปืน ในขณะที่ทหารออกมาล้อมปราบผู้ชุมนุม เดินอยู่บนรางรถไฟฟ้าเต็มไปหมด มีภาพถ่ายทหารถือปืนส่องลงมาด้านล่าง

6..มีภาพประชาชนถูกยิงตายเลือดสาดเต็มถนน นอนตายกลางถนน ตามเต็นท์ ทุกภาพมีทหารอยู่ใกล้คนตาย

7..ช่วงบ่ายโมงทหารเข้ายึดที่ชุมนุมได้ มีทหารเดินเต็มหน้าเวที คนเสื้อแดงหนีตายจนหมด ยกเว้นหน้าเวทีมีผู้หญิงนั่งถือธงแดงอยู่คนเดียว ภาพนี้แพร่ออกมาให้ดูในเน็ทนานมาก...ที่สำคัญไฟไหม้ CTW หลังจากทหารเข้ายึดพื้นที่ได้แล้ว และช่วงนั้นคนเสื้อแดงหนีตายกันหมดแล้วดังกล่าว

8..มีนักข่าวของไทยถูกยิงบาดเจ็บสาหัส และยังมีนักข่าวต่างชาติถูกยิงตายอีก 2 คน

9..มีประชาชนถูกยิงตาย 91 ศพ บาดเจ็บพิการกว่า 2 พัน ทุกคนยังมีชีวิตอยู่ ทุกคนยังมีลมหายใจและพูดได้ ไม่ได้เป็นใบ้

ทั้ง 9 ข้อที่กล่าวมา มีการพูดวิพากษ์วิจารณ์กันมากมาย โดยเฉพาะช่วงที่เกิดเหตุการณ์ใหม่...ถ้าไม่จริงทำไมไม่ออกมาปฏิเสธ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องทหารนับหมื่นขนอาวุธออกมาล้อมปราบ